[FCC 6] Vessel

ก่อนเข้าเรื่อง แวะมาแนะนำก่อนครับว่า [Analogue: A Hate Story ใน Desura](http://www.desura.com/games/analogue-a-hate-story) ขายราคาเท่า Steam แบบไม่เซลและมี Soundtrack นะครับ

——

เกมต่อมาครับ เกมนี้ผมเล็งไว้ตั้งแต่มันออกละ เซลมาหลายรอบก็ยังไม่โดนใจซักที จนกระทั่งลง Humble Indie Bundle 6 ผมกดแบบไม่ยั้งคิด (แถมมี Rochard ด้วย ตอน Because We May Sale อยากกดเกมมาเล่นๆ ก็ไปกดมาสองสามเกมมี Rochard แต่เกินงบเลยต้องตัดอีกเหมือนกัน สุดท้ายเกมที่ผมซื้อมาดันเล่นไม่ได้ต้องขอคืนเงินซึ่งเป็นสิทธิ์ใช้ได้ครั้งเดียวซะอีก ผมจำชื่อเกมไม่ได้ละเป็น platformer เนี่ยแหละ // dev เกมนี้ดีนะ ผมเมลไปบอกว่าเล่นไม่ได้เนี่ยเค้าบอกจะหาดูให้ แล้วก็ให้ key iPad ผมมาเล่นก่อน แต่ผมเล่นบนไอแพดแล้วก็รู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไร พอกลับไปทวงถามความคืบหน้าก็ยังไม่ออกแพทช์สักที สุดท้ายเลยบอกทาง Steam support ว่าทางนั้นบอกว่าให้มาจัดการทางนี้ถึงได้คืนมาเป็น Steam Wallet)

เขียนวงเล็บเล่าซะเป็นเรื่อง บอกชื่อเกมเลยแล้วกัน เกมนี้คือ Vessel ครับ (เอ๊ะ มันอยู่บนหัวข้อเรื่องแล้วนี่หว่า)

หลังๆ มานี้เกมแนวฟิสิกส์เริ่มเป็นที่นิยมมากครับ ในโลกสามดีน่าจะต้องบอกว่าเริ่มที่ Half-Life 2 ที่มี Gravity Gun จน Doom 3 ก็เลยต้องทำปืนฟิสิกส์บ้าง ส่วนในโลกสองดีนั้นผมไม่แน่ใจ บูมรอบนี้อาจจะมาจาก Crayon Physics หรือเปล่า แต่ส่วนตัวผมเริ่มนับที่ World of Goo

เกมพวกนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไว้ตอบพวกที่อวยนินเทนโด้ได้ว่าเครื่องแรงๆ ที่ผมอยากได้น่ะ มันไม่ได้เพราะจะเอาแรงไปทำภาพ Crysis แต่ถ้ามันเบาไปขนาดฟิสิกส์ของไหลแบบ Vessel รันไม่ได้นี่ก็เกินไป

กลับมาเข้าเรื่องครับ Vessel เป็นเกมฟิสิกส์ของไหล คือเราจะมีปืนที่ฉีดหรือดูดหยดน้ำได้ แล้วแอ่งน้ำที่เกิดจากการฉีดก็ดี หรือไปเจอตามฉากก็ดี สามารถเอาตาไปวางได้ ตาจะทำให้แอ่งน้ำรวมตัวกันกลายเป็นตัว Fluro

ตัว Fluro พื้นฐานของเกมคือ Fluro ไฟ มันฉลาด เวลาเห็นไฟสว่างแล้วจะวิ่งไปหาไม่ว่าจะต้องเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาขนาดไหนก็หาทางได้ (แต่ได้ไม่ไกลนะครับ) ทีนี้ก็เลยเอามาเป็นเครื่องมือได้ เช่นว่ามีสวิตช์สองอัน พอกดซ้ายอันขวาจะติด กดขวาอันซ้ายจะติด มี Fluro สองตัวมันก็จะกดสลับกันไปเรื่อยๆ

และด้วยสภาพของเหลวของ Fluro นี่ล่ะครับทำให้มันสามารถผ่านตะแกรงได้ ทำให้เข้าถึงที่ๆ เราไม่สามารถเข้าถึงได้

แต่ทว่า Fluro เหล่านี้กลับมีการกลายพันธุ์ไปตามสถานที่อยู่ และซนอีกต่างหาก ทำให้โรงงานที่ใช้ Fluro ทำงานกลับหยุดทำงาน ฉะนั้นเราจึงต้องเข้าไปแก้ไข และปราบบอส?! ในแต่ละโรงงานนั้น

ตัวอย่าง Fluro ที่เราจะเจอก็เช่น Fluro สว่างและ Fluro มืดครับ โดย Fluro สว่างก็จะวิ่งไปหาแสง ถ้ามีแต่ความมืดก็จะตาย ส่วน Fluro มืดก็ตรงข้ามกันเลย ส่วนจะเจอที่ไหน ก็ลองนึกดูแล้วกันครับว่าจะเป็นโรงงานแบบไหนที่จะมีที่มืด นอกจากนี้แล้วยังมีน้ำหลายแบบอีกครับ เช่น น้ำสีฟ้าเวลาฉีดแล้วไปเจอกับน้ำสีชมพูจะเกิดระเบิด น้ำสีชมพูอ่อนเรืองแสงจะอยู่ตามแมพ ใช้อัพเกรดปืนและปลด achievement

จริงๆ ผมกะจะเล่น 100% นะ แต่ว่าไม่รู้ทำไม achievement วันนี้ไม่ปลดเลย เลยตัดใจตัดเกมนี้ออกแล้วมาบล็อคเลย

**คะแนน:** 8/10

ผมเข้าใจว่าเกมมันมีหลายแนว ฉะนั้นเวลาเขียนคำแนะนำผมมักจะเติมคำว่า ถ้าคุณชอบแนว… ไว้ก่อน อย่างถ้าบอกว่า Civilization เทพมากแนะนำให้ซื้อ ผมซื้อผมคงเสียดายเพราะเทิร์นเบสเล่นแล้วผมหลับ หรือบอกเกมเรียงเพชรสนุกมาก ผมก็สลับได้สิบอันแล้วผมก็บอกว่าเกมมันก็ซ้ำไปซ้ำมาแค่นี้เนี่ยนะ ฉะนั้นแล้ว…

**คำแนะนำ:** ถ้าคุณไม่เอียนเกม Puzzle แบบคุมตัวละครแก้พัซเซิล ผมแนะนำอย่างยิ่งว่าคุณไม่ควรพลาด เนื้อเรื่องจบเกมนี้เหมือนตัดจบไปหน่อย แต่ส่วนที่เหลือถือว่าโอเค (แต่อย่าไปสนใจมาก เหมือนเนื้อเรื่องในหนังโป๊น่ะครับ มีแค่ให้รู้ว่ามี)

**ความยาก:** บางอันก็มองก็เข้าใจ บางอันต้องเปิดบทสรุปแล้วก็รู้สึกว่าง่ายจริง บางอันดูบทสรุปแล้วยังงงว่ามันทำได้ด้วยหรอ

(ต่อไปจะพยายามให้คะแนนส่วนนี้ด้วยครับ เว้นแต่เกมไหนที่ผมใส่สูตรจนเกมมันไม่ยากแล้วจะไม่มีเลยนะ)

—–

ซื้อเกมมาอีกห้าหกเกม… แล้วเมื่อไรจะเล่นจบทุกเกมเนี่ย!!

ปล. วิธีปราบบอสที่เป็นตัว Fluro ที่เจ๋งที่สุดคือตอนที่มันกำลังรวมตัว โยน Drinker Fluro เข้าไปรัวๆๆ มันจะดูดตัวเองแตกไปเรื่อยๆ อิอิกำ

ปล2. รูปน้อยหน่อย ผมลืมแคป พอจำได้ก็แคปตอนท้ายๆ มากลัวจะสปอยก็เลยตัดเหลือแค่รูปนี้ล่ะครับ

Don’t even try, feels like a trial

ไอ้เห้นท (@ihearNoth) มันเชียร์ให้เขียนอยู่นานแล้ว ก็เพิ่งได้มาเขียนหลังจากเขียน recommendation ใน Steam ไป

ผมเล่นเกมแครกเยอะมาก เยอะกว่าเกมแท้ (แน่นอน) แต่ Portal 2 เป็นเกมนึงที่ผมยอมจะจ่ายตังก่อนจะได้เล่นเลย เพราะมันเป็นเกมที่น่าเชื่อได้ว่าจะดีด้วยเหตุผลหลายประการ

1. ชื่อของ Valve ประกันคุณภาพอยู่แล้ว ผมเสพติด FPS สไตล์ Valve และผมจะไม่ชอบ FPS สไตล์ทั่วไป จุดเด่นของ Valve คือเกมมันจะง่ายแบบปัญญาอ่อน โดยเฉพาะปืนที่มันโหลดเป็นนัด ท่าโหลดใส่เป็นแม็กกาซีนแต่ก็นับนัดได้ ทำให้ไม่ต้องลังเลเวลาโหลด แล้วก็เกมมันจะ Linear โคตรๆ เพราะกลัวคนเล่นหลง​ (ใน commentary ของ Left 4 Dead จะบอกไว้ว่าทำด่านซับซ้อนแล้วคนเล่นจะหลง) และยังมี no-return area เยอะมากทำให้เราไม่เดินวกไปวนมา เรียกได้ว่าทุกเกมมันแพ้ชนะกันที่ฝีมือการเล่นและการแพ้ puzzle ล้วนๆ การออกแบบเกมไม่มีผล
2. เกมเลข 2 Valve ทุกเกมไม่ผิดหวังครับ ถ้านับดูก็จะมี Team Fortress 2 ที่ออกมาตั้งหลายปีแล้วยังมีอัพเดตอยู่เรื่อยๆ, Left 4 Dead 2 ที่แพทช์รอง TF2 เลย ส่วนเกมภาคต่อที่ไม่มีเลข 2 ก็แทบจะถูกทิ้งร้าง อย่าง Half-Life: Source, Day of Defeat: Source (มีใครรู้จักมั้ย), Counter-Strike: Source ทำให้ผมเชื่อได้ว่าซื้อมาแล้วจะไม่ถูกปล่อยทิ้ง
3. Coop
4. ARG

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อก่อนหรอกครับ เพราะว่าในไทยดันขายถูกกว่าครึ่ง และร้านประจำของผมอย่าง Zest ก็ไม่มี pre-order (แต่ดันให้มี preorder Darkspore ก่อนวันนึง) ที่จะต้องซื้อกับ zest เพราะผมมี e-cash ค้างอยู่ 400 กว่า เนื่องจากมันเลิกขายบัตร RuneScape (UGC) ไป เมลไปทวงก็บอกแต่ว่าจะหาบัตรเทียบเท่ามาขาย​​(นั่นคือ zynga card แต่ไม่เห็นจะเทียบเท่าตรงไหน)

Portal 2 ไม่ใช่แค่ว่าประสบการณ์เล่นเกมจะอยู่เฉพาะในเกมนะครับ แต่รวมไปถึงประสบการณ์ก่อนเกมออกในส่วนของ ARG (Alternate Reality Game) ด้วย ซึ่งมี Potato sack pack มาขายในราคาพอๆ กับเกม​ (หลังจากจบ ARG แล้วผมเสียดายที่ไม่ได้ซื้อ แต่ก่อนนั้นผมไม่คิดจะซื้อเพราะมันแพงมากกับเกมที่ไม่รู้จัก) โดยมี puzzle ออกมาทั้งในเกมและใน Social media ซึ่งระหว่างสามสัปดาห์นี้ผมนั่ง refresh valvearg.com ทั้งวัน ดึกดื่นก่อนนอนก็ต้อง refresh ก่อน และเมื่อถืงในส่วนของเฟสสุดท้าย คือ [GLaDOS@Home](http://aperturescience.com/glados@home/) ผมก็ทำ [@gladosAtHome](http://twitter.com/gladosAtHome) ซึ่ง follower สองวันกว่าก็ 400 กว่า เล่นเอา follower ผมหนาวๆ ร้อนๆ ไปเลย และในช่วงนี้ก็มีคนบริจาค Defense Grid ให้ผมเล่น ซึ่งเล่นแล้วก็รู้สึกว่าเกมนี้ทำได้ดี และสำหรับใครที่เล่น puzzle ในเกมเหล่านี้ผ่าน​​ก็จะได้มันฝรั่งติด profile ซึ่งมันจะเป็นตัวคูณใน GLaDOS@Home ทำให้มีคนทำสูตรออกมาหลายประเภท ตั้งแต่ autosolver (Cogs) ตัดเพลง (Audiosurf) savegame (Defense Grid) หรือแม้แต่แก้ไฟล์เกม ที่คนเขียนเค้ารัน checksum แต่ดันพลาดไปรันเฉพาะตอนเปิดเกม (Amnesia มั้ง) และใครที่เล่นผ่านทุกเกมจะได้มันฝรั่งทองติดถาวร (ณ​ ตอนนี้) และยังได้รับ Valve Complete Pack อีกด้วยครับ (ราคาน่าจะสักสองสามเท่าของ Potato sack)

ทีนี้มาถึงของ Portal 2 มันมาในซองครับ ผมยังตั้งข้างๆ อยู่ไม่เอาไปเก็บเพราะซองมันใหญ่ ไม่รู้จะไว้ไหน คือถ้าเป็นกล่อง​ โอเค ผมเก็บกล่องไว้เยอะแยะ StarCraft 2 ยังตั้งอยู่ได้ แต่อันนี้มันยังไง และก็ของข้างใน ถือว่าพอรับได้ แต่ถ้ามองว่าจ่ายเพิ่ม 200 ไม่เอากล่องดีๆ มาเอาของแถม ผมว่าไม่อะ (คนอื่นๆ ก็มองแบบนี้อยู่หลายคนครับ แต่ผมจะคิดเสียว่า 200 เป็นค่า early adopter แล้วกัน เหมือนว่าเสื้อตัวใหม่ขายแพง ทิ้งไว้สักพัก SALE ลด 50% อะไรอย่างนี้)

สำหรับตัวเกม puzzle บางอันทำผมนั่งจ้องอยู่ ผมพยายามเล่นไม่ดูบทสรุปและทำได้สำเร็จยกเว้นใน Coop ครับ โดยใน Single player มันออกแบบตามสไตล์ Valve อยู่แล้ว คุณไม่มีทางหลงไปนอก puzzle ได้ ผมก็เลยใช้เวลาสำรวจอะไรๆ หน่อย ก็ใช้เวลาเล่นกันกว่าครึ่งวันครับสำหรับในรอบแรกสุด แต่ถึงจะสำรวจดีๆ แล้วผมก็ยังพลาด Portrait of a Lady กับ Exile Vilify สองสิ่งไม่ควรพลาดในเกม (มีคนบอกว่า และผมก็เห็นด้วยว่า Exile Vilify ใน YouTube กับในเกมมันเพลงเดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน) สำหรับในรอบที่ผมได้แผ่นมาแล้วเล่นเก็บ achievement ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมงครับ เก็บได้ไม่ครบต้องเล่นซ้ำบางด่าน​ โดยอันที่ผมพยายามมากสุดก็คือ Overclocker และอันที่ไม่น่าพลาด (เล่นรอบแรกผมควรจะได้) คือ Door prize ครับ

มีคนแนะนำว่า Portal 2 เป็นเกมที่เราโดดเดี่ยวอยู่กับหุ่นใน Aperture Laboratories ดังนั้นควรจะปิดไฟเล่น ไม่ใช่เพราะเกมนี้น่ากลัวอย่าง Half-Life หรือ Dead Space 2 แต่เพราะเราจะได้สัมผัสถึงความโดดเดี่ยว และถึงผมจะเล่นกลางวัน แต่นั่งคนเดียวในที่เงียบๆ ก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความโดดเดี่ยวนั้นครับ และแน่นอนว่า การได้ฟังสิ่งที่ “เป็นมนุษย์” อย่าง Exile Vilify ท่ามกลางป่าคอนกรีตนั้นมันย่อมรู้สึกวังเวงกว่าการฟังใน YouTube แน่นอน (ในเกมจะมีเสียงการทำลายล้าง เหล็กเสียดสี ดังเป็นพื้นหลังเรื่อยๆ)

มาถึงในส่วนของ coop ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สนุกนะครับในการแก้ปัญหารอบแรก ติดไปด้วยกัน ผ่านไปด้วยกัน แต่ข้อจำกัดของ Portal ทั้งในโหมด sp และ mp คือ replayability เวลาผมเล่นรอบสองจะไม่ชอบมากๆ ถ้าเพื่อนร่วมทีมเล่นไม่ดี คือ ping เฉลยให้หมดแล้วแต่ไม่สามารถทำได้ ถึงมันจะเกิดจากการ lag มันก็ไม่สนุกที่จะนั่งกดปุ่มรัวๆ ให้เพื่อน และก็ การเล่นซ้ำมันจะทำให้เพื่อนร่วมทีมที่ไม่เคยเล่นไม่สนุกเหมือนตอนเราเล่นใหม่ทั้งสองคนครับ ตรงนี้เป็นจุดที่ไม่น่าจะสามารถแก้ได้สำหรับเกม puzzle เพราะถ้าทำ procedural generation แบบ Left 4 Dead 2 puzzle มันจะไม่สนุก เหมือนเป็น filler มากกว่า

Meme ในเกมนี้ ผมยังไม่เห็นแนวโน้มอะไรมากกว่าเอาคำพูดมา ซึ่งก็ยังไม่เห็นว่าคำไหนจะฮอตฮิตนะครับ แต่ ประตู cake ทำผมนั่งอ่านด้วยความงงอยู่ว่า ไหนว่าไม่มี Cake​ (ผมอ่าน commentary ก่อนเล่นเกมครั้งแรกครับ) แล้วนี่อะไร surprise?

สำหรับเพลง ระหว่างรอโหลดเกมผมฟัง Re: Your Brains ของ Jonathan Coulton ผู้แต่งทั้ง Still Alive และ Want you gone และผมไม่เคยฟัง Want you gone มาก่อนเลย พบว่าเพลงมันคนละโทนกับ Still Alive ออกจะสดใสกว่า แต่ฟังแล้วไม่รู้สึกว่าเจ๋งเท่ากับ Still Alive และ Re: Your Brains มันยังติดหูอยู่ ส่วนเพลงอย่าง Exile Vilify นี่ผมเปิดฟังเป็นสิบๆ รอบ มันสื่ออารมณ์ได้ทั้ง Portal และชอบที่มันใช้คำที่ความหมายหนักสื่ออารมณ์

**สรุป** ถ้ามองอย่างเกม Portal 2 ไม่คุ้มครับ เกม multiplayer ผมจะยินดีซื้อเพราะมันสามารถเล่นได้ไม่รู้จบ แต่ Portal 2 ไม่ใช่ ดังนั้นต้องมองว่า Portal 2 เป็นหนัง คุณสามารถเข้าชมได้ในราคา 899 พร้อมของแถมติดมือกลับบ้าน และชมซ้ำฟรีได้แต่คุณจะรู้พล็อตหนังหมดแล้ว (แต่แน่นอนคุณจะต้องกลับไปดูซ้ำเพื่อหาจุดเล็กๆ ที่ผู้สร้างใส่เอาไว้ และเก็บรายละเอียดต่างๆ เพื่อรู้ลึก รู้จริงเกี่ยวกับหนัง)

แต่เอ่อม ผมเสียค่าเครื่องคอมใหม่มาเล่น Portal 2 ด้วยอะ :3 หวังว่ามันจะทำให้เล่นเกมใหม่ๆ ได้ไปอีกหลายปี

ปล. หลายๆ part ใน entry นี้เก็บมาเขียนจากที่อ่านใน youtube และ steam forum

ปล2. แต่ถึงจะดูหนังก็เถอะ ตั๋วหนังสี่รอบมันยังไม่แพงเท่า Portal 2 เลย