2013: ผ่านวันที่ดี ผ่านวันที่เราเคยมีน้ำตา

ซีรีส์ต่อจาก 2012: เมื่อนึกถึงวันเก่าๆ ก็เหงาได้ทุกเวลา ครับ (นี่กะจะเอาให้จบเพลงเลย)

ของเล่นสำหรับเขียนของปีนี้คงเป็น Facebook Year in Review ซึ่งน่าเสียดายมันไม่ Permalink ของแต่ละปี แต่หลังๆ มาผมใช้เฟสบุ๊คมากขึ้นเยอะมากจนไม่ค่อยต้องรื้อทวิตเท่าไรแล้ว

หนึ่งปีนี่มันเหมือนจะไวนะ แต่ผมรู้สึกว่าเพราะผมจำปีนึงแค่ครึ่งปี คืออะไรต้นปีเนี่ยผมลืมๆ ไปเยอะแล้วโดยเฉพาะเมื่อมันเป็นช่วงรอยต่อระหว่างชั้นที่ผมเลยโยนทุกอย่างในม. 6 ไว้ใน 2012

NSC

ปีที่แล้วผมเขียนไว้ว่าอยากได้รางวัลที่ 1 NSC ผลที่ได้ตอนนี้มันไม่ใช่แค่นั้นแล้วแหละ ผมก็ไม่คิดไม่ฝันว่าโปรเจกท์จากอนิเมะอันนี้จะพาผมไปไกลถึงเวทีนานาชาติ ไม่ว่าได้อะไรกลับมาผมก็ว่ามันคุ้มค่าแล้ว

ผมพบอะไรหลายๆ อย่าง ไม่เคยมีใครขอลองจิ้มโปรแกรมผมดูเองสักเท่าไรแม้จะยื่นเมาส์ให้ ยกเว้นใน NSC ผมคิดเล่นๆ ว่าถ้าผมทำโปรเจกท์ที่ทั้งหมดเป็น scripted demo จะเป็นยังไง

NSC ของปีนี้ผมไม่ได้ส่ง ผมไม่แน่ใจว่ารอบนิสิตจะส่งยังไงถึงจะชนะ และหมวดที่มันไม่มีโปรแกรม (เฉยๆ) แล้ว โปรแกรมสำหรับลินุกซ์ผมก็จัดเต็มไปในโครงการสองอันแรกที่ส่งไปแล้ว ก็เลยไม่รู้จะส่งอะไรลงหมวดไหนดี

ม. 6

ในเพลงฐานลับ มันมีอยู่ท่อนนึงว่า “ฉันรู้ว่าคำว่าขอบคุณที่เธอพูดในวันนั้น ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ”

หลังงานปัจฉิมนิเทศผมร้องไห้เพราะคำว่าขอบคุณนั้นเอง

ผมรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปไวมากเหมือนจบม. 6 มาปีนึงแล้วทั้งๆ ที่มันยังไม่ครบปีดี ผมไม่ได้คุยกับเพื่อนเก่าเลย เราจะยังได้เจอกันอีกมั้ยนะ

ต่างประเทศ

หลายคนที่โรงเรียนนึกว่าภาษาอังกฤษผมพลิ้วๆ นี่คือเคยไปต่างประเทศ แต่จริงๆ คือผมเพิ่งมีพาสปอร์ทไม่นานนี้เอง

น้องผมยุแม่จนทำให้ได้ไปต่างประเทศปีนี้เป็นปีแรก ที่แรกที่ผมไปคือสิงค์โปร์ และอีกทีคือผมได้รางวัลจาก TICTA Award ได้ไปฮ่องกง

ผมพบว่าประเทศพวกนี้เหมือนกันหลายอย่าง คงเพราะเป็นจีนด้วย แต่ที่น่าสนใจและผมชอบคือป้ายโฆษณาในสถานีรถไฟไม่ได้มีแต่โฆษณา แต่รวมถึง PSA (public service announcement) ด้วย ประมาณว่ามีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขอะไรแบบนี้ แล้วก็จะมีบริการต่างๆ สำหรับผู้พิการหมด รถไฟฟ้ามีบันไดลงที่มีมอเตอร์ขับรถเข็น มีเกทไฟฟ้าแบบกว้าง

ปิดเทอม

เป็นปิดเทอมในฝันมากที่จะได้หยุดติดต่อกันหกเดือน

ประเด็นคือหลังจาก NSC ผมได้งานลูกค้าหลายเจ้ามากชนิดที่ว่ามีตังพอสมควรเลยล่ะ ก็เลยกลายเป็นปิดเทอมที่ไร้ความหมายมากเพราะได้แต่ตังแต่ไม่ได้เล่นอะไรแปลกๆ เลย จากเดิมที่ปิดเทอมจะเป็นเวลาทำ NSC ซึ่งจะได้หยิบจับอะไรแปลกๆ มาเล่น

คำว่า “แปลกๆ” ของผมนี่ก็นิยามยาก คืองานลูกค้าที่ผ่านมาผมก็ได้เล่น Laravel และชอบมันดี (รู้สึกเป็นคนใจง่าย ตอนม. 3 เห่อ Drupal ตอนม. 4-5 มาใช้ Django จะเอางานเร็ว พอม. 6 ใช้ PHP+MongoDB เขียนเฟรมเวิร์คเอง แล้วก็มาเล่น Laravel แต่งานใหญ่ๆ ไม่ค่อยได้ทำ งานเล็กๆ ก็ใช้ Silex+Eloquent นี่งานล่าสุดใช้ NodeJS อีก) แต่มันก็ไม่อยู่ในคำว่าแปลกๆ สักเท่าไร

มันคงนิยามได้ว่าเป็นอะไรที่เอาไปพูดในงาน barcamp แล้วเท่มั้ง..

Anri

ไม่นานนี้ผมได้เครื่องใหม่มาคือ ThinkPad Edge E130 ผมยังติดไม่ได้รีวิวมันสักทีเลย แต่ชอบมันมาก ผมรู้สึกว่ามันทำทุกอย่างที่แมคบุ๊คทำไม่ได้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นความคล่องตัวที่ถือเดินไปโค้ดไปยังได้ ยกมือเดียวก็ได้ TrackPoint มันก็ดี (แต่ทัชแพดไม่ค่อยดีเท่าไร ใช้ทัชแพดแมคมาแล้วกดอะไรก็ไม่ชอบ) จะยกไปไม่เอาสายชาร์จไปก็ได้เพราะแบตมันตั้ง 6 ชั่วโมง (Intel ULP) แม้จะไม่ใช่ 6 cell นี่ถ้ามี cellular data อีกหน่อยนี่เยี่ยมเลย แต่ในราคานี้ก็สุดยอดล่ะครับ

ผมรู้สึกว่าผมจะเสียการควบคุมไอแพดแล้วเพราะไม่ค่อยได้ใช้ แต่หลังจากได้ Anri มามันทำหน้าที่เดียวกับไอแพดสำหรับผมเลย คือเวลาออกจากบ้านที่คนปกติจะยกไอแพดไป ก็เอาอันริจังไปแทน

(ระวังสปอย Durarara!)

เครื่องนี้ผมพยายามตั้งชื่อเครื่องที่สื่อถึงอะไรเล็กๆ ก็ไล่ไปจนกระทั่งสะดุดกับ Sonohara Anri หัวหน้าห้องของเราจาก Durarara ซึ่งในบทที่ 3 นั้นผมพบว่าเธอมีอะไรคล้ายๆ กับเครื่องผมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไฟแดงที่ติดตลอดเวลาทำงาน หรือขนาดที่เล็กแต่ก็ทรงพลังไม่น้อย (โดยเฉพาะที่มันรัน Arch ผมกำลังขาดเครื่องทำงานบนลินุกซ์ในบ้านพอดี)

menome

สองปีก่อนผมก็ว่าจะทำ menome2

ปีที่แล้วผมก็ว่าจะทำ menome2

สุดท้ายผมบอกว่าดรอป menome

เหตุผลคือเราคุยกันมาสักพักแล้วครับเกี่ยวกับทิศทางของ CoreAnime ซึ่งว่ากันตรงๆ ว่าหลายคนที่ทำอยู่ก็เลิกดูอนิเมะไปแล้ว ก็เลยคิดกันอยู่ว่าอาจจะต้องหาคนมาช่วยเพิ่ม ถึงตรงนี้ผมก็คิดแล้วว่าตอนนี้คนอัพเดต menome มีคนเดียวซึ่งผมก็เกรงใจพอสมควรว่ามันเว็บผมแต่ผมใช้อย่างเดียวไม่ดูแล content เลย ก็เลยตัดสินใจว่าเราพอกันตรงนี้ดีกว่า

ถ้าถามผมว่าโปรเจกท์โค้ดที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตคืออะไร menome ยังเป็นคำตอบของคำถามนั้นสำหรับผม

สำหรับโค้ดมีหลายคนบอกว่าอยากให้เปิด อันนี้ผมอยากเก็บไว้เองเพราะรู้สึกว่าระบบ social แบบนี้น่าจะเอาไปใช้ต่อในงาน freelance ได้บ้าง และเปิดไปก็ไปเซตยากเพราะระบบมีหลายท่อนมาก ในทีมน่าจะมีแต่ผมที่เซตมันเป็น

ส่วนข้อมูล ผมเองเป็นคนชอบ open data นะ อยากไปช่วย ArchiveTeam แต่ผมไม่มี disk+bandwidth พอ ใน menome ผมก็เลยเขียนสัญญาไว้ว่าถ้าปิดจะ export ให้ แล้วก็ export ให้จริงๆ

Anime

ผมเคยคิดว่าผมไม่น่าจะเลิกดูอนิเมะง่ายๆ โดยเฉพาะเมื่อมี menome ค้ำอยู่ แต่พอลองได้ดรอปสักซีซั่นนึงแล้วมันเป็น domino effect จนล้มไปถึงปิด menome

ตอนนี้ก็เลยตัดสินใจว่าเลิกกับอนิเมะไปสักพัก ไว้อาจจะกลับมาดูใหม่ก็เป็นได้ แต่หลายๆ คนเรียกร้องสตรีมมิ่งอยู่ ก็คงยังจะสตรีมอยู่ ไว้กลับมาดูอาจจะทำสตรีมไปดูไปเลยก็ได้ แต่แบบนั้นคงเกร่อไปสักพักคนก็คงเลิก

ระหว่างนั้นผมเพิ่งพบว่าชาว geek หลายคนดูอนิเมะแต่ไม่ค่อยทวิตเรื่องอนิเมะเท่าไร ผมก็สงสัยว่าทำไม จนกระทั่งผมเข้าใจว่า community มันไม่น่าอยู่สักเท่าไร ก็เลยพยายามถอยด้วยการ unfollow หลายคนออกแล้วพบว่า timeline ค่อนข้างน่าอ่านยิ่งขึ้นมาก ผมสามารถเคลียร์ blocked keywords ออกได้เลย

สิ่งที่ผมเสียดายคือสมาคมคนหนีโลกไม่ค่อยมีทกันแล้ว (ถ้ามีก็เหมือนเป็น SUNBURN + คนอื่นนิดหน่อย) แต่ก็เห็นมีกลุ่มใน timeline ไปเกะกันบ้าง สมัยก่อนผมไม่่เที่ยวเลยนะ นั่งอยู่แต่บ้าน แต่พักนี้ผมเริ่มอยากไปนั่งมีทกันเรื่อยเปื่อยอีกแล้วอะ

Fix KU

ตั้งแต่ผมเห็นเว็บชั่วโมงกิจกรรม ผมว่ามันเป็น web design ที่ยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษที่แล้วมาก ผมเลยคิดอยู่ว่าปีสอง (ก็คือปีหน้านี่ล่ะ) ถ้าเพื่อนเริ่มมีสกิลกันแล้วอยากลองรวมกลุ่มไปขอทำเว็บนี้ใหม่

ระหว่างนั้นผมก็เล่นอะไรหลายๆ อย่างที่มันกำจัดความน่ารำคาญ

อันแรกคือ KUWIN Autologin ผมเห็น @nattster ทำไว้ก่อน แล้วต่อมาผมก็ใช้ของสำนักคอมแต่มันมีแต่ใน Android เลยลองศึกษาหาวิธีแกะดู แล้วก็เรียบร้อย ทุกวันนี้ผมไม่ต้องมานั่งบวกเลข CAPTCHA อีกต่อไป

อันต่อมาคือ KUSmartBus ซึ่งมันมีแต่ใน iOS ผมเลยว่างั้นก็แกะมาทำ Android เองด้วยละกัน ปรากฏว่าคนเขียนแอพก็ติดต่อมาให้ผมทำ official app อยู่ซึ่งตอนนี้ผมก็กำลังทำตัวนี้ให้ฟีเจอร์เท่า iOS อยู่ แต่ก็ติดป้าย unofficial ไปพลาง (ผมชอบสไตล์ release early, release often มันสนุกกว่าที่โค้ดเสร็จแล้วได้โชว์ชาวบ้านว่าทำอะไรไป) แล้วก็อาจารย์ที่ทำโครงการนี้ก็ให้ผมเข้าไปช่วยทำในเฟสสองด้วย

Skype

ไม่รู้ยังไง @nonene_desu ชวนเล่น Left4Dead 2 แล้วก็เลยจับเป็นกรุ๊ปเล่นเกมกัน ซึ่งก็เคยถึงขนาดมาถึงบ้านผมเลย (ใครมันชวนเนี่ย)

ตอนนี้เราก็ไม่ได้เล่น Left 4 Dead 2 กัน ก็ไปเล่น Dota 2 แล้วก็เลิกเล่นเพราะมันแพ้ติดกันจนน่าเบื่อ บ้างก็ไป LOL ซึ่งผมไม่อยากเล่น MOBA clone ก็ยังเล่น Dota 2 อยู่ บางทีก็กลับมารวมกันเล่นตอน Humble Bundle มันมีอะไรโดนๆ ไม่ก็เล่นเกมที่อยู่ๆ มันแจกฟรีเช่น Civilization V (ซึ่งผมก็ไม่ค่อยชอบเล่นเท่าไร แต่คนอื่นเค้าชอบ)

ตอนนี้ผมยุให้กลุ่มไปอยู่บน Hangouts แล้ว ก็ดี ประหยัดแรมไปไม่ต้องเปิดแอพตลอด โดยเฉพาะในมือถือ

Dota 2

ผมคิดว่า Dota น่าจะเป็นกีฬาประจำวิศวนะ เลยพยายามหัดเล่น Dota มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนรวมกลุ่มกันเล่นทีแรกผมเล่นไม่รู้เรื่องเลย แต่ไปนั่งอ่านเยอะมาก ดู Replay ด้วยก็ค่อยๆ เล่นเป็น

จนกระทั่งไม่รู้ไปเจอกับ @kris157 ยังไง เค้าเล่นโคตรโปรมาก เกมแรกที่ผมเล่นกับเค้าอยู่ใน High level matchmaking (ตอนนั้นผมเคยเล่น High แค่สองเกม คือเกมนั้น กับอีกเกมที่รุ่นพี่ลากไปแล้วผมแทบไม่ต้องทำไรก็ชนะ ตอนหลังเค้าปิดไม่ให้ดู level แล้ว) ผมก็เกร็งๆ เล่นแบบใจเย็นมากๆ เลยชนะไปได้ ตอนนี้ก็เล่นไม่เกร็งแล้วแต่พักหลังเริ่มพลาดอะไรบ่อยอยู่เหมือนกัน

ช่วงนึงที่เล่นพลาดไปมากคือเล่น Dazzle ซึ่งเป็น Hard support แล้วผมเห็นครีพดันเข้าป้อม carry ไม่มากัน ผมก็เลยไปดันเอง ต่อมามันมี teamfight กัน ตอนเล่นผมก็ไม่รู้เล่นไปเรื่อยๆ จนจบเกมผมยังหาไม่เจอว่าทำไมเราแพ้ จนมาดู replay แล้วตะโกนว่า Dazzle อยู่ไหน ถึงได้รู้ตัวว่าเล่นผิดวิธีมาก ตอนนี้เลยมาเดินกับ carry บ่อยๆ แต่ position ยังไม่สวย ใน level ปกติที่ผมเล่นกับเพื่อนจะไม่ค่อยสำคัญเดินมั่วๆ ก็ได้ (เกมก่อนที่เขียนนี่โดน pudge hook ไปยังกด shadow blade วิ่งมาทันก่อนมันกด ultimate ตามได้) แต่ในเกมที่เล่นกับ @kris157 ผมเล่นยังงั้นไม่ได้ต้องเซฟมากๆ

ผมว่าเล่นกับทีมที่เก่งกว่าแล้วผมเปลี่ยนไปนะ คือพอเป็น weakest link มันไม่ต้องโทษใครว่าเล่นห่วย แต่จะมองเห็นเลยว่าผมทำอะไรห่วย

Steam

ตอนปลายปี 2012 มีคนโพสต์ใน /r/Games ว่าเรามาเคลียร์เกมใน Steam กัน ผมก็เห็นดีด้วยว่าเกมก็ซื้อมา ซื้อมาทำไมถ้าจะไม่เล่น ก็เลยเล่นเกมบ่อยขึ้นมากจนกระทั่งทิ้งอนิเมะไปเลย (ส่วนนึงมาจากม. 6 ด้วยที่ผมว่าน่าจะดรอปไปสักซีซั่นนึง ไปๆ มาๆ ดรอปถาวรเลย)

หลายคนพบว่าถึงเวลานี้แล้วเพิ่งเล่นจบตัว A บ้างก็มี (สำหรับคนที่เล่นเรียงตามตัวอักษร) สำหรับผมก็เล่นไปได้ประมาณ 70 เกม แต่จากที่ผมมีสัก 150 เกมก็เพิ่มไปกว่าร้อยเกมแล้ว เล่นตามไม่ทัน >_>

ปัญหาที่ผมเห็นคือพอเล่นมีจุดมุ่งหมายว่าจะเล่นเกมให้จบแล้ว มันเหมือนฟาสฟู๊ด คือสวาปามเกมเข้าไปอย่างไฮสปีดโดยไม่ได้ซึมซาบสิ่งที่เกมต้องการนำเสนอเลย บางเกมที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ก็รอดไป อย่าง BioShock Infinite หรือ Call of Duty 4 ซึ่งเนื้อเรื่องมันออกมาให้เล่นจบแล้วจะได้เนื้อเรื่องไปเกือบหมด ไม่ก็ตามอ่านเอาเพราะน่าติดตามมาก แต่เกมบางเกมโดยเฉพาะอินดี้แล้วเนื้อเรื่องเกมมันกดผ่านๆ แก้พัซเซิลอย่างเดียวก็ได้ เกมพวกนี้ความสนุกเสียหมด

สำหรับบล็อคยอมรับว่าดองครับ ไม่ใช่เล่นเกมไม่จบแต่อย่างใด คิวน่าจะใกล้สิบเกมแล้ว

Twitica2

ผมทำ Twitica มาตั้งแต่ม. 2 แล้วมั้ง ที่มาที่ไปคือผมใช้ thaiWitter แล้วผมอยากได้ identi.ca ก็เลยขออนุญาต fork แต่ผมทำไปทำมาแล้วมันเละ ก็เลยว่างั้น clone เอาดีกว่า

เวลาผ่านไปผมรู้อะไรมากขึ้นเยอะมากก็ยิ่งเข้าใจว่าโครงสร้าง Twitica ข้างหน้ามันก็มีบั๊กให้พอเห็นแล้ว โดยเฉพาะตอนที่ผม patch ระบบ delete tweet เข้าไปยิ่งทำให้โปรแกรมงงกับ stream ที่ไหลไปทิศทางเดียว​ (ซึ่งก็เป็น design ที่ผิดมากเพราะจริงๆ identi.ca ควรแทรกไทม์ไลน์ได้ แต่ทำยังไงให้ user รู้ต้องมาออกแบบ) ก็เลยคิดว่าหยุดแล้วมาเริ่มคิดใหม่ดีกว่า

ปีนี้ได้มาออกแบบสักที หลังจากออกแบบไปแล้วทิ้งหลายรอบ ผมเห็น vi หรือ emacs ที่มันมี plugin สารพัดอย่างตั้งแต่แก้ข้อความยันเล่นทวิตเตอร์แล้วก็มาคิดว่าน่าจะทำให้มัน extensible ได้ขนาดนั้นบ้าง เพราะผมนึกๆ ดูแล้วเหตุผลที่ผมยังใช้และทำมันอยู่คือมันเป็น client ที่ผมเขียน ผมจะเติมอะไรก็ได้ซึ่งมันก็มีของเล่นส่วนตัวผมเยอะอยู่ (เช่นสมัยนึง mobile web ไม่ติดลิมิต ผมก็เขียน mobile web api ไว้ลับๆ ด้วย) ในรุ่นใหม่ผมเลยอยากให้คนอื่นมาทำแบบนี้ได้บ้างโดยไม่ต้องทำ client เองทั้งหมด

ทำๆ ไปพอเริ่มเขียนแล้วดันมาเจอข้อจำกัดของ Sandbox Chrome ก็เลยโยนลงไหดองต่อ ยังไม่รู้เอาไงดีเพราะแผนที่ทำมาพังหมด คือผมกะว่าจะใช้ template engine จากเดิมที่ใช้ javascript string ซึ่งโค้ดมันเละมาก แต่ปัญหาคือถ้าไม่ compile template จะรันไม่ได้เพราะ chrome ห้าม eval และถ้า compile template ผมว่าจะทำให้คนที่มาอ่านโค้ด extension เพื่อทำ addon จะยากขึ้น

ในรุ่นนี้ผมคิดว่าจะเปลี่ยนชื่อเพราะ identi.ca ไม่มีแล้ว รุ่นนี้น่าจะมี App.net มาแทน (Twitiapp?) แต่ขอทำเป็น in-app purchase นะครับเพราะ App.net มันเก็บตัง

2013 Goals:

  • คืนทุนค่าแมค SUCCESS ผมได้งานมาสามงานที่เป็นงานแบบที่ผมอยากทำ (คือไม่ใช่ทำเว็บทั่วไป) และจ่ายดีด้วย ก็คุ้มไป
  • รางวัลที่ 1 NSC SUCCESS
  • menome2 FAIL
  • Frag Cake Challenge: เล่นเกมทุกเกมใน Steam ที่ซื้อให้จบทุกเกม In Progress
  • เขียน Ruby FAIL สุดท้ายหลังจากบล็อคอันล่าสุด ผมไม่แน่ใจว่า Ruby อยู่ตรงไหนของชุดเครื่องมือผม จะแก้ปัญหาก็ใช้ python จะทำเว็บก็มี PHP บ้าง Python บ้าง บางทีก็ Node แล้วแต่โจทย์ เลยไม่ได้ใช้ Ruby เลย
  • Visual Novel FAIL ผมว่าคงไม่น่าจะมีเกิดขึ้นแล้วมั้ง แต่ก็ยังคิดอยู่
  • Twitica2 FAIL?
  • NLC Alumni FAIL ผมอยากได้ design นะ คือผมทำเองก็พอได้อยู่ แต่ก็อยากให้เป็นผลงานของหลายๆ คนไม่ใช่ผมคนเดียวแล้วทุกคนปรบมือ แต่ไม่มีใครมาทำตรงนี้จริงจัง ก็เลยล่มไป

มันดูเหมือนว่า ทุกอย่างที่ผมทำค้างไว้ในม. 6 มันจะสำเร็จหมด และอะไรที่มาเริ่มทำในปีหนึ่งมันล้มเหลวหมด

2014 Goals:

  • Frag Cake Challenge ภาคต่อ
  • ซื้อโปรแกรมแท้:
    • Windows
    • Photoshop
    • Sublime Text 3
  • ทำเว็บกิจกรรมนิสิต
  • Staff Barcamp Bangkhen 5
  • Contribute เข้าโปรเจทก์ open source ขนาดกลางๆ บ้าง / OR ส่ง NSC
  • ทิ้งไว้ให้ปีต่อไป: Game engine (ถ้ามันยังไม่มีใครทำเอนจิ้นแบบที่ผมคิดไว้นะ)

2012: เมื่อนึกถึงวันเก่าๆ ก็เหงาได้ทุกเวลา

ซีรีส์ต่อจาก [2011: เมื่อมองย้อนไปในวันที่เราเดินผ่านพ้นมา](https://blog.whs.in.th/node/1004) ครับ

ปีนี้โชคดีหน่อยว่าเขียนง่าย Twitter มัน export มาได้แล้วก็นั่งไล่ดูเอาได้ แต่เดือนนึงผมทวิต 4-6 พันทวิตนี่สิ..

เรื่องสำคัญในปีนี้คงเป็นอายุครบ 18 แล้ว แฮ่ๆ ฉะนั้นเราก็ต้องฉลองโดยการโหลด AV เรื่องแรกในชีวิตมาดู

ปีนี้เพื่อนผมเริ่มชวนไปแข่งโน้นนี้ เปลี่ยนบรรยากาศจากที่ลงรายการเดิมปีแล้วปีเล่า รางวัลที่ได้ในปีนี้ที่ควรจะกล่าวถึงก็จะมี

– **NLC12 Server ที่ 2** ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของ NLC ด้วย ก็ตลกดีที่ผมได้ NLC ปีแรกก็ที่ 2 แล้วปีสุดท้ายก็กลับมาอยู่ที่ 2 เหมือนปีแรก
– **IT KMITL OpenHouse Security ที่ 1** ซึ่งผมเองก็เสียวๆ ว่าจะไม่ได้เพราะคะแนนมันสูสีกันมาก ตอนแรกผมไม่คิดว่าจะมีใครน่ากลัวเพราะตอน PHP นี่เก็บที่ 1 แบบสบายๆ แต่พอมา Security ดูบ้างแล้วพบว่าสนามนี้มันจริงจังกว่ามาก และผมเลือกจะพาเพื่อนไปด้วยแล้วป่าวประกาศ ทำให้กรรมการจงใจออกกฎมาเพื่อป้องกันการฟาร์มของผมโดยทำคะแนนแยกกันบางส่วน แต่สุดท้ายเพื่อนผมที่ได้ 0 คะแนนก็ยังได้ที่ 1 อยู่ (hard carry..)

ในงานเดียวกันผมแอบไปดู PHP ปีนี้โจทย์ยากกว่าปีก่อนมากและผมก็ไม่แน่ใจว่าจะทำทันแน่หรือเปล่า (แต่กรรมการก็ยังมีคนคิดอยู่ว่าถ้าผมมาอาจจะเห็นผมเสร็จอีก) และผมก็โดนเพื่อนลากไปแข่งเขียนโปรแกรมของ Microsoft ที่จัดขำๆ รางวัลเป็นแฟลชไดรฟ์​ ซึ่งก็ชนะด้วยความเกรียนแบบงงๆ ตอนเพื่อนลากไป ถามว่าภาษาอะไรมันบอกว่า JavaScript พอไปเขียนสักพักมองนามสกุลไฟล์… .cs (C#)

– **KMUTT ICT Challenge ที่ 3** ซึ่งรางวัลนี้เพื่อนผมลากไป และผมก็กลับมาเป็น hard carry อีกรอบ รอบแรกผมทำคะแนนได้สูงสุด ส่วนรอบที่สองตอบถูกตอบผิดบ้างจนคะแนนลงไปต่ำสุด แต่ก็ตีกลับขึ้นมาอยู่ในที่ 3 ได้ทันเวลาพอดี
– งานคอมฯ รวมรับรางวัลทั้งปีในวันเดียว ผมต้องวิ่งห้ารอบจนคนข้างล่างหัวเราะ

—-

โครงการที่ทำมาในปีนี้ก็

– [CoreAnime](https://facebook.com/coreanime) นั่นล่ะครับ ที่ออกเล่มแรกมาในช่วงปีใหม่พอดี ทั้งหมดปีนี้ก็ออกไปได้ 5 เล่ม
– Kyou ส่ง NSC, น่าแปลกที่ผมคิดโครงการ NSC แทบตายคิดไม่ออก ได้ยินเสียง printer แกร๊กเดียวคิดออก แต่เอาไปเอามาแล้วก็จดอันนั้นไว้แล้วมาเขียนโปรแกรมสร้างคออนิเมะดีกว่า เพราะทำเองเริ่มไม่ไหวแล้ว

ผมยังติดว่าจะเลี้ยงข้าวซันเบิร์นกรุ๊ปอยู่เลย เพราะ Kyou เกิดมาจากคออนิเมะ และคออนิเมะเล่มหลังๆ ก็เกิดมาจาก Kyou

– ผมเริ่มเล่น reddit จริงจังในปีนี้ และได้รู้จักกับ /r/clannaddiscussion ที่สตรีม Clannad ดูกัน ผมเลยเขียน anime streaming เองบ้าง ก็สนุกดี เรื่องแรกที่ฉายคือ Sakamichi no Apollon ซึ่งจากเรื่องดราม่ากลายเป็นเรื่องตลกเพราะผมเขียนตัววิ่งแบบ Nico Nico Douga ไว้ด้วย

(@PhompAng)
(@PhompAng)

– รุ่นพี่มาขอให้ทำเว็บจองอนุสรณ์ออนไลน์ให้ ผมก็ทำเอาไว้ แต่ปีนี้เสียดายที่ไม่ได้ทำถึงผมจะเป็นกรรมการอนุสรณ์เพราะความยุ่งยากในการจัดการ (เป็นงานรุ่นอันเดียวที่ผมช่วยนะ แต่ผมก็ยังนึกเสียใจอยู่บ้างเพราะทำงานไม่สนุกเท่าไร)
– เว็บกรอกข้อมูลศึกษาต่อของแนะแนว ผมทำไว้ทั้งของรุ่นพี่และรุ่นผม ซึ่งอันแรกผมเขียนด่วนๆ ด้วย Django และอันหลังผมเขียนล่วงหน้าช้าๆ ด้วย PHP เป็นเว็บแรกที่ทำให้ผมเริ่มเห็นว่า MongoDB ไม่ใช่คำตอบของทุกปัญหา
– เริ่มเรียน Ruby

—-

ของพังปีนี้ก็มี ฮาร์ดดิกส์ตัวนึง ภาพและข้อมูลที่ผมสะสมมาตั้งแต่ม. 1 ที่คิดว่าจะไว้ลงอนุสรณ์รุ่นบ้าง หลายหมด หลายๆ โปรแกรมเขียนไว้อยากกลับไปดูว่าตัวเองพัฒนามาแค่ไหนก็ไม่มีอีกแล้ว แล้วก็มีการ์ดจอแมคไปสองใบซึ่งผมก็ยังงงๆ ว่ามันพังง่ายยังกะ Heat Cycle

—-

ทางด้านอนิเมะ ถ้าถามว่าอนิเมะแห่งปีของผมคืออะไร ผมเขียนในคออนิเมะไว้ว่า *”ซีเรียสแห่งปี Kokoro Connect / ครบรสแห่งปี Sword Art Online Arc 1 และเรื่องที่มักจะข้ามไปกันอย่าง Sakamichi no Apollon กับอนิเมะดนตรีที่ไม่มีนางเอกน่ารักกินเค้กไปวันๆ”*

ปีนี้ menome2 วางแผนว่าจะเสร็จ สุดท้ายมันก็ยังไม่เสร็จ ยังเหลืออีกยาวไกล ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมไม่ควรเขียน Framework เอง เพราะมันทำงานให้มากขึ้น แต่ขณะเดียวกันผมก็รู้สึกสนุกกว่าการนั่งใช้ Framework คนอื่น

ปีนี้ทำค่ายซับของตัวเองดูบ้าง แรกๆ ก็ไม่อะไรเท่าไร จนกระทั่งเริ่มมีเรื่อง LC เป็นประเด็นในทวิต ผมก็เลยตัดสินใจปิดค่ายซับตัวเองไปทำอย่างอื่นที่สนุกกว่า

พูดถึงสังคมอนิเมะแล้ว ถ้าปี 2011 เป็นปีที่ผมแจ้งเกิดในสังคมอนิเมะ ปี 2012 คงเป็นปีที่ผมกลายเป็นบุคคลธรรมดาไปแล้ว ผมมีความคิดแปลกๆ ที่มันไม่เหมือนกับคนอื่นเขาจนไม่ถูกกับหลายๆ คน ไม่ใช่เฉพาะในเรื่องอนิเมะแต่รวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย (แต่ยังเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน) จนสุดท้ายผมตัดสินใจบล็อคและ filter ทิ้ง

*(ขยายความ: ผมสังเกตคนส่วนมากที่ผมรู้จักในสังคมอนิเมะเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ประเด็นนึงที่ผมเคยคุยในปีนี้คือ “แต่ก่อนอนิเมะหายาก ได้ LC มาดีใจมาก เดี๋ยวนี้ LC โดนด่า” ผมก็บอกว่าก็โลกมันเปลี่ยนแปลงไป เทคโนโลยีก้าวหน้า มันจะกลายเป็นยังไงก็ต้องยอมรับมัน ก็มีคนบอกว่าไอ้เปลี่ยนแปลงเปลี่ยนแปลงไม่ดีจะไปยอมรับทำไมล่ะ ผมก็คงต้องปล่อยให้เค้าอยู่ในโลก อยู่ในกลุ่มของคนที่ยังยึดติดภาพสมัยนั้นนั้นต่อไปเพราะหลายครั้งแล้วที่พบว่าประเด็นพวกนี้ คุยกันยังไงไม่มีทางที่ฝ่ายไหนจะยอมเปลี่ยนความเข้าใจ)*

พอเริ่มมีบัตรเดบิต ผมเริ่มเห็นคุณค่าของเงินขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่มันเหลือๆ ก็ใส่กระเป๋ากางเกงไว้ ก็กลายเป็นต้องมาลงบัญชีทุกครั้งที่เข้าออก จะไปเที่ยวก็ต้องลงว่าใช้เงินไปเท่าไร ทั้งนี้ก็เพราะผมลงหลุม Steam ไปนั่นล่ะครับ เกมใน Steam ตอนต้นปีผมมีทั้งหมด 40 เกม ตอนนี้มี 149 เกมแล้ว – -! (มันมาจาก Bundle หลายๆ ตัวซะส่วนมากครับ)

บางทีก็ไปลงกับ iTunes บ้าง เพลงไทยยังไม่ค่อยเท่าไร อยากมีให้ครบแต่คงกระเป๋าฉีก ก็ตามอารมณ์ทีละเพลงสองเพลง แต่เพลงญี่ปุ่นนี่มีน้อยครับ เพลงไหนมีนี่จะพยายามซื้อเลยเป็นการสนับสนุนให้เค้าเอามาลงให้เรากระเป๋าฉีกใน Thai Store มากขึ้น

เรื่องสุดท้ายคงเป็นเรื่องมหาลัย ผมเห็นรุ่นพี่เค้าเอนท์กันจริงจังปีที่แล้วผมก็สงสัยว่าตอนปีผมเองจะเป็นยังไงนะ พอมาถึงปีตัวเองผมพบว่ามันล่องลอยมาก คือผมก็ยังใช้ชีวิตเรื่อยไปเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิมอีกเพราะถือว่าเป็นปีสุดท้ายที่จะสัมผัสชีวิตนักเรียนที่ผ่านมากว่า 14 ปี

ผมใช้เวลาห้าวันอ่านแกทแพท แต่ดันได้ GAT 297.5 สูงสุดของประเทศ​ (นั่นก็คือผิดข้อเดียวใน GAT อังกฤษ) ซะอีก แต่ที่เหลือคะแนนก็งั้นๆ ผลปรากฎว่าคะแนนพอสำหรับ​ ITE-KMITL และ SKE-KU ซึ่งก็เป็นไปตามที่ต้องการแล้ว แต่ไม่พอสำหรับ CS-TU และไม่ถึงวิศวะหลักสักตัว

สำหรับคณะที่สอบตรงก็ติดไปหลายที่ครับ ไม่ว่าจะเป็น CS-SWU CSE-SIIT โควต้าพอร์ท SW-IC-KMITL

—-

## 2012 Goals:

ปีที่แล้วผมไม่ได้ตั้ง Goal อะไรเลย เลยยกมาลอยๆ ละกัน

– ส่ง NSC **SUCCESS**
– CoreAnime **SUCCESS**
– คืนทุนค่าแมค **EPIC FAIL** โดนค่าบอร์ดไปอีก
– menome2 **FAIL**
– Visual Novel **FAIL**
– Twitica 2 **FAIL**
– NLC Alumni **FAIL**

เฟลรัวๆ เพราะ menome ไม่เสร็จนี่ล่ะครับ

## 2013 Goals:

– คืนทุนค่าแมค
– รางวัลที่ 1 NSC
– menome2
– Frag Cake Challenge: เล่นเกมทุกเกมใน Steam ที่ซื้อให้จบทุกเกม
– เขียน Ruby
– Visual Novel
– Twitica2
– NLC Alumni

ไอเดีย VN นี่เขียนไว้ห้าหกเรื่องแล้วนะ แต่สกิลแต่งนิยายนี่เป็นศูนย์ แล้วไม่ชอบแนวนี้ด้วย จะไปเล่นเกมหาไอเดียก็ไม่ไหว

edit: เพิ่มอีกอย่างนึง

ผมเห็นรุ่นพี่หลายคนมากที่ติดทวิตพอๆ กับผม พอเข้ามหาลัยไปแล้วหายไปอยู่ในเฟสบุ๊คอย่างเดียว ผมไม่รู้ว่าเพราะเรียนหนัก เบื่อทวิตเตอร์หรืออะไร เพราะไม่มีคำอธิบายอะไรออกมา

ฉะนั้นแล้วผมสัญญาว่าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วผมยังจะเล่น Twitter อยู่เหมือนตอนนี้ ถ้ามันมีเหตุที่จะไม่เล่นผมจะเข้าไปทวิตบอกว่าหายไปเพราะงานเยอะ เพราะเบื่อบางคน หรือเพราะอะไร ไม่หายไปลอยๆ

ปีหน้ารุ่นน้องผมหลายคนคงน่าจะมีคำถามเดียวกับผมว่ารุ่นพี่หายไปไหน ทำไมไม่มาทวิตแล้ว ก็จะได้รู้ไม่ต้องสงสัยแบบผมแล้ว