[FCC 39] Bioshock Infinite

เนื่องจากว่าวันนี้เซลพอดี ประกอบกับว่ายังติดใจเกมนี้อยู่เลยขอลัดคิวเขียน (คิวเขียนยาวมากครับ ดองบล็อคไปนานพอสมควร)

BioShock Infinite นี่ผมได้มาจาก AMD Promo คือซื้อการ์ดจอ AMD จะแถมเกม มีคนขายคีย์ใน eBay อยู่ ผมก็ bid มาได้ประมาณ $38 กับ 4 เกม: BioShock Infinite, Tomb Raider, Crysis 3, Far Cry 3 Blood Dragon (เกมนี้ยังเหลือนะครับสนใจเมนชั่นในทวิตมาได้ แต่เป็น UPlay) เหตุผลที่ผมซื้อคือ ถ้าสังเกต FCC ผมจะเห็นว่ามันมีแต่เกมอินดี้รัวๆ แล้วผมก็ไปอ่าน /r/gaming เห็นมีม BioShock หลายอัน (เช่น เล่น Metro Last Light จบ มาเล่น Infinite ต่อ เพิ่งรู้ตัวว่าทีวีที่บ้านจอสี) ก็เลยถามใน /r/shouldibuythisgame ว่าอยากได้ AAA สักเกมมาแล้วอะ อ่านมีมชาวบ้านไม่รู้เรื่องเลย เอาไรดีที่เป็น story-oriented ก็มีหลายคนแนะนำเกมนี้มาครับและก็ Borderlands 2 ด้วย (เกมหลังนี่บังเอิญมันถูก เลยสุดท้ายจากจะกดเกมเดียว ก็เหมาสองเกม)

โอเค เนื้อเรื่อง ผมไม่ค่อยอยากเล่าเท่าไรมันจะสปอยเอา เอาเป็นว่าเราได้รับคำสั่งมาว่า “Bring us the girl, and wipe away the debt” เราจึงต้องไปช่วย Elizabeth ที่ถูกขังอยู่ในเมืองลอยฟ้า Columbia ออกมา

ทีนี้แม่หญิง Elizabeth ของเราเนี่ยครับก็ดันมีพลังพิเศษคือเปิด tears (ประตูมิติ) ที่มีอยู่ในธรรมชาติได้ โดยสามารถนำของใน tears ออกมาได้ ตอนสู้กันก็จะสามารถกดให้เรียกของมาช่วยได้ตามแต่สเตจ เช่น กล่องปืน กล่องยา หุ่นยนต์ ป้อมปืน

ทางด้านพระเอกของเรา Booker DeWitt ก็ไปทำอิท่าไหนไม่รู้มา ที่มือมีรอยแผลเป็นคำว่า AD อยู่ แล้วในเมืองดันมีประกาศจับว่าเป็น False Shepard พอดี ก็เลยโดนไล่ล่าติดตามมาแม้จะยังไม่เจอกับ Elizabeth ก็ตาม ในระหว่างทางเราจะเจอกับไอเทมคือ Vigors ซึ่งก็คือเวทย์มนต์นี่ล่ะครับ มีหลายอัน เช่นกดค้างไว้จะสะสมกระสุนที่ยิงมาใส่เราได้ ปล่อยแล้วจะสะท้อนกลับไปในจุดที่เราปล่อย (เหมาะสำหรับศัตรูที่ชอบรัวปืนใส่เรา), Vigor สำหรับทำให้คนหรือเครื่องกลเป็นพวก แต่แน่นอนว่าเสีย mana point ครับซึ่งเกมเรียกว่า salt มีให้เก็บตามด่านทั่วไป หรือจะซื้อตามตู้กดก็ได้

ด้านการต่อสู้ของเกมนี้นั้น ผมยกความดีให้อย่างหนึ่งคือเกมไม่ใช่เหมือนเกมสมัยนี้ที่ไม่มีหลอดเลือด ดูสีจอว่าแดงแค่ไหนเอา ใน BioShock Infinite เรายังใช้หลอดเลือดธรรมดากันอยู่แต่มีเกราะที่ regen เองได้ และตามฉากจะมีไอเทมลับให้เก็บซึ่งเอาไว้อัพ stat คือเลือกอัพเลือด, เกราะ และ salt (ผม max salt แล้วสลับกันเกราะ 2 เลือด 1 นะ) ส่วนเวลาตายนั้นจะเสียเงินเล็กน้อยและฟื้นใน area ที่สู้นั่นแหละครับแต่จะไปหลบตามห้องข้างทาง (ก็ดี บางทีมีไอเทมซ่อนอยู่) แต่ศัตรูที่ยังไม่ตายจะรีเลือดเต็มหมด ส่วนที่ตายแล้วก็ตายเลย นอกจากนี้ยังมีระบบชุดอีกด้วย ใส่แล้วจะมีความสามารถ เช่น เสื้อที่ใส่แล้ว execute (เวลาศัตรูใกล้ตาย กด melee attack ค้างไว้จะฆ่าแบบโหด) จะทำให้ได้เลือดคืน, หมวกใส่แล้วกระสุนมีโอกาส auto reload

ทางด้าน Elizabeth นั้น ยังดีว่าเราไม่ต้องสนใจเธอเวลาสู้ครับ คือยิงอย่างเดียว ไม่ใช่เกมแบบถ้า escort target ตายแล้วเกมโอเวอร์ แต่หลายๆ ฉากสามารถสั่งให้เปิด tears ได้ และเธอก็มักจะหาไอเทมมาให้เราบ่อยๆ ถ้าเดินปกติอาจจะเป็นเงิน ในการต่อสู้ก็อาจจะเป็นปืน, salt หรือเวลาใกล้ตายจริงๆ หลบไปแปีบนึงจะโยน full heal มาให้

เกมนี้ผมรู้สึกแปลกอยู่อย่างนึงคือปืนสามารถเก็บได้แค่ 2 ชนิดเท่านั้นนะครับ ไม่ใช่แรมโบ้ถือชะแลง, RPG, SMG, AR2 ไปรบ และ vigor เองก็ตั้งสลับกันได้แค่สองชนิด ถ้าจะเปลี่ยนต้องเข้าเมนูเปลี่ยน (ซึ่งเข้าไม่ยากคือกดปุ่มเปลี่ยนแช่ไว้ และเกมจะ pause ให้) ทั้งปืนและ vigor มีซื้ออัพเกรดด้วยนะครับ ปืนก็อาจจะเป็นเพิ่มความแรง คลังกระสุน กระสุนต่อแม็ก ความแม่นยำ ส่วน vigor ก็เพิ่มความสามารถ เช่น posession ปกติจะยึดได้แค่เครื่อง แต่ถ้าอัพแล้วจะควบคุมคนได้ด้วย ทั้งนี้ปืนเก็บเอาเท่านั้นครับ ไม่มีตู้ขายปืน (ปกติศัตรูตายจะดรอปปืนที่ใช้อยู่)

ทางด้านศัตรูนั้นส่วนมากแล้วก็เป็นทหารตำรวจธรรมดาล่ะครับ แรกๆ ก็ถือไม้กระบองเฉยๆ หลังๆ ถือ RPG ขึ้นยานเหาะมาก็มี และก็จะมีตัวพิเศษที่เรียกว่า heavy hitters อีกด้วย เช่น Zealots of the Lady ที่สามารถเคลื่อนย้ายเป็นเงาได้แบบ Slark ในดอทเอ (คือยิงมันไม่ได้ต้องรอมันหยุดเคลื่อนก่อน), Fireman หรือคนปาไฟนี่แหละ และตัวนึงที่ผมเกลียดมากคือ Boy of the Silence ซึ่งไว้จะเขียนต่อไป

ตัวฉากเกมนี้ต้องบอกว่าสวยงามอลังการมากครับ เกมใช้สีสันโทนสดใสมาก และใช้ลูกเล่น color correction ต่างๆ และภายในฉากนอกจากจะมี Tear แล้ว บางฉากก็จะมี Skyhook หรือ Skyrail อีกด้วย ก็คือตะขอหรือรางซึ่งเรากระโดดขึ้นไปเกาะแล้วไหลไปตามทางได้เรื่อยๆ และแน่นอนต้องมี Skykick ถึงจะครบสูตร

ทางด้านเนื้อเรื่องเกมนี้นั้นไม่เป็นสองรองใครแน่ๆ ครับ ผมคงพูดได้แค่ว่ามันเทียบชั้นมาโดกะมาจิก้า (หรือเหนือกว่า) เลยทีเดียว ตัวละครดำเนินเรื่องตัวหนึ่งที่น่าสนใจในเกมนี้คือคนที่พาเรามาส่งที่ประภาคารต้นเกม และเราจะเจอกับเค้าไปตลอดเกมครับนั่นคือ Lutece Brothers

ผมคงไม่สปอยละกันว่าทำไม เอาเป็นว่าเค้าจะคอยให้คำแนะนำเราเวลาเราถึงทางตันต่างๆ

—————————

เล่าถึงในเกมสักหน่อย มันจะมีอยู่ฉากนึงที่เราจะต้องเดินคนเดียวไปในอาคาร ซึ่งจะเป็นฉากเปิดตัว Boys of Silence ด้วยครับ ผมเองก็ไม่รู้จัก เห็นอะไรมาก็ยิงไปเลย แต่อย่างที่ Khan บอกไว้ใน [Metro 2033](http://blog.whs.in.th/node/1704) ว่าเราต้องทำความเข้าใจมันเสียก่อน กว่าผมจะเข้าใจคือเกือบจะ game over แล้วเลยไปเปิดบทสรุปอ่าน

ในบทนี้นั้นฉากจะออกแนว Thriller ครับ และจะมีคนที่เหมือนผีอยู่ในฉาก ยิงก็ไม่ตาย แต่ถ้าเราให้ Boy of Silence เห็น หรือเปิดฉากยิงมันเมื่อไรความสนุกจะเกิดขึ้น คือพวกคนผีจะเริ่มวิ่งมาหาเราและมันไม่ได้มีแค่ตัวเดียวไงครับ ออกมาทีสภาพเหมือนโดน Undying รุมในดอทเอเลย รอบแรกผมยิงแทบหมดกระสุน รอบสองผมยิงหมดกระสุนแล้วเลยพบว่าเอา Vigor ไฟซัดได้ผล แต่ผมคงไม่เอารอบสามแล้ว ตู้กระสุนในบทนี้ไม่มีให้เลยสักตู้ ผมต้องคอยเก็บเอาตามพื้น จนกระทั่งพบว่าในฉากนี้นั้น Boy of Silence เราสามารถเดินหลบได้หมดไม่ต้องบวกกับมันก็ได้ -_-‘ ผมคงจะนับฉากนี้เป็นฉากที่ยากที่สุดในเกมนี้ พอๆ กับฉากจบเกม (สปอย: เกมนี้ไม่มีบอสจบครับ มีแต่บอสกลาง ถ้าไม่นับพวก heavy hitters ซึ่งออกมาเสมือนบอสอยู่แล้วอะนะ)

————————

**คะแนน:** 10/10

ผมรู้สึกว่า Combat เกมนี้ไม่สนุกเท่าไร หรือผมประหยัด Vigor ไม่รู้ ถ้าตัด Combat ไปคงจะดี (แต่ก็คงเป็นหนังไปแล้ว) แต่ผมคงไม่หักคะแนนเพราะถือว่าเป็นเกมเนื้อเรื่องเหมือน [To The Moon](http://blog.whs.in.th/node/1665)

**คำแนะนำ:** ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

**ความยาก:** ปกติผมไม่เล่น FPS ไม่ใส่สูตรนะ แต่เกมนี้ผมตายบ้างแต่ก็เล่นจบได้โดยไม่ต้องใส่สูตร

ปล. เกมสนุกไม่สนุกดูจากภาพก็ได้ครับ ถ้าภาพมันน้อยหรือแคปไม่ค่อยสวยนี่คือผมกำลังมันจนลืมกดแคปจอไปแล้ว บางทีค้นภาพอีกทีเจอแต่รูปสปอย